จากกรณีเมื่อวันที่  20 เม.ย. 2559 ที่ นางสาวเจมจิรา คุ้มภักดี และนางสาวเกษรา พรหมสี สองพี่น้องเจ้าของร้านเสริมสวย รักผมมั้ย (ล็อค4) เลขที่ 648 ต.บางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ได้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสิงห์บุรีว่ามีขโมยได้เข้ามาขโมยเสื้อใน-กางเกงในที่ตากไว้ข้างบ้าน นั้น


ล่าสุดวันที่ 25 เม.ย.59 เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองสิงห์บุรี ได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 46/2 ม.3 ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี​ ซึ่งมีการแจ้งเบาะแสจาก นายไพรเวช ม่วงไหม ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 เพราะได้เฝ้าสังเกตการณ์และเห็นรูปผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนมา ให้ดูคล้ายกับลูกบ้านของตนซึ่งเป็นเจ้าของบ้านทราบชื่อ นายสายัณห์  คงสุนทร อายุ 49 ปี  จึงแจ้งให้กับตำรวจขอหมายค้นดังกล่าว ซึ่งภายในบ้านพบของกลางเป็นชุดชั้นในผู้หญิงหลากหลายสีเป็นจำนวนมากกว่าพัน ตัว ทั้งวางกองกับพื้นชั้น 2 ของบ้าน ซ่อนไว้ในกระเป๋า และแขวนตามไม้แขวนราวเสื้อผ้าแต่เอาเสื้อคลุมไว้  ไม่พบนายสายัณห์ เจ้าของบ้าน  สอบถามนายไพรเวช ผู้ใหญ่บ้าน ทราบว่า นายสายัณห์ ไปทำงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตามไปควบคุมตัวที่ทำงานซึ่งอยู่เขต จ.อ่างทอง


 สอบสวน นางวรรณา คุ้มครอง อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 ม.3 ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ผู้เสียหายให้การว่าตนอยู่บ้านใกล้ นายสายัณห์ ตนสงสัยนายสายัณห์เหมือนกัน แต่ยังจับไม่ได้ โดยชุดชั้นในของตนถูกขโมยยกราวไปแล้ว 3 ครั้ง  พอได้ข่าวว่าตำรวจมาค้นบ้านนายสายัณห์ จึงตามมาดูและก็พบชุดชั้นในของตนที่ถูกขโมยมาด้วย  สอบสวน นางสาวเจมจิรา คุ้มภักดี และนางสาวเกษรา พรหมสี สองพี่น้องที่ถูกขโมยชุดชั้นในไปและได้แจ้งความไว้ให้การว่า หลังจากตำรวจได้โทรศัพท์มาบอกตนว่าได้ไปค้นบ้านผู้ต้องสงสัยพบของกลางเป็น ชุดชั้นจำนวนมาก และให้ไปดูของกลางเป็นชุดชั้นในว่ามีของตนหรือเปล่า จึงได้ไปดูพบชุดชั้นในที่หายไปของตนในบ้านเลขที่ดังกล่าว


เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนาย สายัณห์ คงสุนทร มาจากที่ทำงานนำมาสอบสวนที่ สภ.เมืองสิงห์บุรี รับสารภาพว่า  ขโมยมาหลายปีแล้วโดยส่วนตัวตนชอบนำเอาชุดชั้นในที่ขโมยมาใส่วันละตัว และเคยโดนจับมาหลายปีแล้วแต่ยังไม่เข็ด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป




 ทีมา  :  http://www.siamupdate.com/news-182462